วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กลอน

ดีใจได้พบเพื่อน แม้ลางเลือนเรื่องครั้งก่อน
ความรักความอาทร ยังแน่นอนและแน่ใจ
ห่างหายกันหลายปี เจอกันทีก็ดีใจ
เจอแล้วก็จากไป แต่อย่างไร..เราเพื่อนกัน
พบเจอทางที่ค้น แต่ละคนแต่ละฝัน
หลายทาง หนึ่งสัมพันธ์ คือนิรันดร์..คือย้ำเตือน
เคยเล่นเคยหยอกล้อ เคยงอนง้อ..เคยเป็นเพื่อน
กี่วันกี่ปีเดือน ยังคงเหมือนเคยอยู่ดี
อยาก พบอยากทายทัก อยากหยุดพัก ณ ยามนี้
กาลหมุนทุกนาที ทางที่มี..เริ่มห่างกัน
นานแล้วกว่าได้พบ ไม่อยากจบ..ด้วยหมางเมิน
รู้ ไหมนานเหลือเกิน กว่าทางเดินเชื่อมถึงกัน
ขอคุยขออีกนิด เพื่อนสนิท..อย่าลืมฉัน
สัญญา..ขอยืนยัน จะคงมั่น..ฉันเพื่อนเธอ


ขอพรจากดวงดาว
หยิบเมฆขาวมาห่มให้
ฟ้ากว้าง ต่างดวงใจ
โอบเธอไว้ ทุกนาที
ขอแสงทองเมื่อรุ่งสาง
ส่องทางให้เธอทุกที่
ทุกปรารถนาที่ ฉันมี
เพื่อนคนดี เพื่อเธอ




ในนิยามของคำว่าเพื่อน
เธอทำให้รู้สึกเหมือนเธอเป็นได้มากกว่า
อบอุ่น จริงใจและห่วงใยเสมอมา
อยู่ตรงไหนก็รู้ว่ายังผูกพัน
และเป็นความ ผูกพันที่เหนียวแน่น
เพื่อนอื่นหมื่นแสนแทนพวกเธอไม่ได้ทั้งนั้น
ขอบ คุณมากนะกับใจจริงที่ให้กัน
และจะเป็นเพื่อนที่แสนดีตลอดไปเช่นกัน ให้...สัญญา...

ฉันผูกใจไว้กับการมีเพื่อน
ฉันผูกเงื่อนงามเปี่ยมด้วยความหมาย
ฉันผูก ความเป็นเพื่อนด้วยเงื่อนตาย
ฉันผูกสายใยรักกับเพื่อนนับเดือนปี
ต่าง สายเลือดกลับผูกได้เป็นสายร่วม
เรียงร้อยรวมทุกใจไปทุกที่
คือเงื่อน รักที่ผูกไว้จากไมตรี
โดยไม่มีเงื่อนไขอะไรเลย

เพียงแค่ขอให้ใจเราคิด
เพียงแค่ขอให้ใจเราฝัน
เพียงแค่ขอให้ใจ เราผูกพันธ์
เพียงแค่ขอเป็นเพื่อนกันตลอดไป



วันเวลาเหงาเหงา..
-ภาพความหลังเก่าเก่ายังคงอยู่ในความคิด
ความ รู้สึกในวันวานยังคอยตามติด
มิตรภาพยังแน่นสนิทในใจ
มิครภาพของคำ ว่า"เพื่อนรัก"
ที่ทอถักและไม่มีวันจางหาย
มิตรภาพที่ถูกเชื่อมโยง ด้วยหัวใจ
นานแค่ไหนก็ไม่มีวัน...บางเบา


พรุ่งนี้สอบ เลยมีนัดติวหนังสือ
ติวเตอร์ครั้งนี้ก็คือ....ฉัน
ต้อง ตื่นตีห้า มาทำเลกเชอร์ ให้เพื่อนๆมัน
กะว่าจะเกรดพุ่ง ด้วยกันทั้งกลุ่มเลย
ยอมเสียสละ เพราะเพื่อนน่ะสำคัญเสมอ
ดังนั้นอย่า ให้ฉันเก้อ พวกเธอต้องอย่านิ่งเฉย
หลังจากติวครั้งนี้ ช่วยเอาเกรดสี่ มาอวดทุกคนเลย
ใครสอบตกอย่างเคย ต้องโดนทำโทษ ด้วยการเลี้ยงขนมนมเนย...นี่คือข้อตกลง!!!

ขอขอบคุณสิ่งดีๆจาก http://www.klonthai.com/content/blogcategory/20/26/10/20/

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

น้ำสมุนไพรไทย

น้ำสมุนไพรไทย

หากจะสืบสาวถึงความเป็นมาของเครื่องดื่มสมุนไพรก็มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยพุทธกาล มีน้ำชนิดหนึ่งเรียกว่า "อัชบาล" หรือ น้ำปานะ ซึ่งพระสงฆ์สามารถฉันน้ำชนิดนี้ได้ตลอดทั้งวันแทนการขบเคี้ยวอาหารหลังมื้อเพลตามบัญญัติของพุทธศาสนา น้ำปานะนี้ใช้สมุนไพร หรือพืชผลชนิดที่มีความเผ็ดร้อน เช่น ขิง ข่า กะทือ ตะไคร้ เป็นต้น ต้มในน้ำร้อนและผสมน้ำตาลทรายแดงให้พอมีรส



จากน้ำอัชบาล หรือน้ำปานะ อันเป็นเครื่องดื่มของพระสงฆ์ในสมัยพุทธกาลนั้น ในเวลาต่อมาเนื่องจากเมืองไทยเป็นเมืองที่มีพืชพันธ์อุดมสมบูรณ์ และมีผลไม้นานาชนิดที่สลับหมุนเวียนกันตลอดทั้งปี จึงเกิดความนิยมนำเอาพืชสมุนไพรและผลไม้มาทำเป็นเครื่องดื่ม โดยอาศัยการปรุงแต่งรสชาติด้วยการเติมน้ำตาล หรือเกลือบ้าง เพื่อให้เกิดความอร่อยขึ้น อาทิ น้ำมะตูม น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะนาว น้ำใบเตย น้ำตะไคร้ และน้ำใบบัวบก เป็นต้น



น้ำสมุนไพรและผลไม้มีประโยชน์ทางยา มีคุณค่าทางอาหารและช่วยป้องกันโรคได้ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อน เหงื่อออกมาก การได้ดื่มน้ำสมุนไพรจะช่วยให้จิตใจชุ่มชื่นทำให้รู้สึกสบาย เพราะน้ำสมุนไพรบางชนิดสามารถช่วยผ่อนคลายความร้อน ทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง เช่น น้ำมะขาม ช่วยลดอาการกระหายน้ำ น้ำสมุนไพรบางชนิดช่วยบำรุงหัวใจเป็นยาเย็น ได้แก่ น้ำไปเตย น้ำใบบัวบก น้ำสมุนไพรบางชนิด มีคุณสมบัติช่วยย่อย ช่วยทำให้ธาตุปกติและฟอกเลือด ได้แก่ น้ำมะเขือเทศ เป็นต้น น้ำสมุนไพรเหล่านี้ เป็นได้ทั้งอาหาร และให้คุณค่าทางยาได้บ้างเล็กน้อย ดังนั้น น้ำสมุนไพรจึงเปรียบเสมือนยาที่ช่วยบำรุง ปกป้องรักษาสภาวะร่างกายให้เกิดสมดุล ทำให้สุขภาพดีได้แบบไม่ต้องหาซื้อยาแพงๆ มาช่วย


แต่เดิมพืชและผลไม้ที่จะนำมาทำเป็นเครื่องดื่มนั้น มักจะเก็บมาสดๆ และใช้ทันที รสชาติที่ทำจึงมีความสด และทรงคุณค่าตามธรรมชาติ มาถึงปัจจุบันนี้เครื่องดื่มได้ถูกประยุกต์ขึ้นต่างรูปแบบ มีการนำวิทยาการสมัยใหม่มาใช้ในการผลิต มีการบรรจุในภาชนะแบบต่างๆ เพื่อความสะดวกต่อการใช้ในชีวิตประจำวัน แต่การเตรียมน้ำสมุนไพรไว้ดื่มเองนั้น ราคาจะย่อมเยา สะอาด ปราศจากสารพิษ รสชาติจะถูกปากของแต่ละบุคคลได้ทั้งกลิ่นและรสตามธรรมชาติของสมุนไพรนั้น ๆ


จาก http://www.it-gateways.com/charoenvej/Saranaroo/drinksamunpai.htm

ขนมหวานไทย

ขนมหวานไทย

1. ขนมกล้วยบวดชี (Banana in Coconut Milk)

2. ขนมวุ้นกะทิ (Thai Coconut Jelly)

3. ข้าวเหนียวมะม่วง (Mango with Sticky Rice)

4. สังขยา (Thai Pandanus Custard)

5. ขนมทับทิมกรอบ (Water Chestnut with Syrub and Coconut Milk)

6. ขนมสังขยาฟักทอง (Thai Pumpkin Custard)

7. ขนมกล้วย ( Thai Steamed Banana Cake)

8. ขนมลูกชุบ (Green Peanut in Jelly)

9. ขนมหม้อแกง (ฺBaked Mung Bean Cake)

10. ขนมข้าวเหนียวดำ (ฺBlack Sticky Rice Pudding)

11. กล้วยทอด (Fried Banana)

12. ขนมเม็ดขนุน (Thai green peanut paste)

13. ขนมตะโก้ (Thai Pudding with Coconut topping)

14. ขนมทองหยอด (Egg yolk fudge balls cooked in syrup)

15. ขนมบัวลอย (Dumplings in coconut cream)

16. แกงบวดฟักทอง (Pumpkin in coconut milk)

17. ขนมฝอยทอง (Golden threads)

18. ขนมครองแครงกระทิ (Caramelized crisps in coconut cream)

19. ขนมเปียกปูน (Black coconut sweet pudding)

20. กล้วยเชื่อม (ฺBananas in Syrup)


จาก http://www.ezythaicooking.com/thai_dessert_recipes.html

อาหารไทย

อาหารไทย
Site language:






1. ต้มยำกุ้ง [ Spicy Soup with Prawn and Lemon Grass ]

2. ผัดกะเพราไก่ [ Fried Chicken with basil leaves ]

3. แกงเขียวหวานไก่ [ Green Curry with Chicken่ ]

4. แกงเผ็ดเป็ดย่าง [ Red Curry with Roasted Duck ]

5. ผัดไทยกุ้งสด [ Stir-Fried Rice Noodle with Shrimp ]

6. ส้มตำ [ Papaya Salad ]

7. ทอดมันปลา [ Thai Fish Cakes ]

8. ต้มข่าไก่ [ Coconut Milk Soup with Chicken ]

9. พะแนงเนื้อ [ Beef Panaeng ]

10. ข้าวผัดกุ้ง [ Thai Fried Rice with Prawns ]

11. ไก่ผัดเม็ดมะม่วง [ Stir-Fried Chicken with Cashew Nuts ]

12. หมูผัดเปรี้ยวหวาน [ Sweet and Sour Sauce fried with Pork ]

13. ห่อหมกปลา [ Thai Steamed Curried Fish ]

14. หอยลายผัดน้ำพริกเผา [Stir-Fried Clams with Roasted Chili Paste]

15. หมูย่าง [ Thai Grilled Pork ]

16. แกงมัสมั่นเนื้อ [ Massaman Beef ]

17. ยำวุ้นเส้น [ Thai vermicelli Salad with Prawns ]

18. ปลาราดพริก [ Fried Fish with Tamarind Sauce ]

19. ผัดซิอิ๊วหมู [ Stir-Fried Ribbon Noodles with Pork ]

20. แกงจืดไข่น้ำ [ Fried Egg in Clear Soup ]



จาก http://www.ezythaicooking.com/free_recipes_th.html

น้ำตกในเมืองไทย

น้ำตก ใน เมืองไทย
น้ำตก ทีลอซู ตาก
น้ำตก ทีลอเร ตาก
น้ำตก ห้วยแม่ขมิ้น กาญจนบุรี
น้ำตก แม่ยะ เชียงใหม่
น้ำตก เจ็ดสาวน้อย สระบุรี
น้ำตก เอราวัณ กาญจนบุรี
น้ำตก กรุงชิง นครศรีธรรมราช
น้ำตก ป่าละอู ประจวบคีรีขันธ์
น้ำตก ไทรโยค กาญจนบุรี
น้ำตก คลองลาน กำแพงเพชร
น้ำตก ตาดโตน ชัยภูมิ
น้ำตก เจ็ดคต สระบุรี
น้ำตก นางรอง นครนายก
น้ำตก สาริกา นครนายก
น้ำตก กระทิง จันทบุรี
น้ำตก แสงจันทร์ อุบลราชธานี
น้ำตก แจ้ซ้อน ลำปาง
น้ำตก เขาชะเมา ระยอง
น้ำตก หมอกฟ้า เชียงใหม่
น้ำตก เหลาเหลียง ตรัง
น้ำตก เหวนรก ปราจีนบุรี
น้ำตก แม่สา เชียงใหม่
น้ำตก แม่กลาง เชียงใหม่
น้ำตกโตนงาช้าง สงขลา
น้ำตก ภูซาง เชียงราย
น้ำตก วชิรธาร เชียงใหม่
น้ำตก ไทรโยคน้อย กาญจนบุรี
น้ำตก ตาดหมอก เพชรบูรณ์
น้ำตก แม่สุรินทร์ แม่ฮ่องสอน


จาก http://www.trekkingthai.com/waterfall/waterfall.htm

ที่ท่องเที่ยวทางทะเล

รวมสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล
ชลบุรี 1. บางแสน 2. เกาะสีชัง 3. พัทยา
ระยอง 4. เกาะเสม็ด 5. หาดแม่รำพึง 6. ออกทะเลจับปลาหมึก 7.เกาะมันนอก
จันทรบุรี 9.หาดเจ้าหลาว 10. หาดคุ้งวิมาน
ตราด 11.บ้านสลักเพชร-บ้านโรงถ่าน 12. ขับรถเที่ยวเกาะช้าง 13. น้ำตกธารมะยม 14. หาดทรายขาว 15. เกาะช้าง 16. เกาะเหลายา 17. เกาะหวาย 18. เกาะขาม 19. เกาะง่าม 20. เกาะกูด 67. เกาะหมาก
เพชรบุรี 21. หาดเจ้าสำราญ 22. หาดปึกเตียน 23. หาดชะอำ
ประจวบฯ 24. ตัวเมืองหัวหิน 25. เขาตะเกียบ 26. สวนสนประดิพัทธ์ 27. อ่าวแม่รำพึง 28. เขาเต่า 29. เขาช่องกระจก30. อ่าวมะนาว 31. อ่าวประจวบฯ
ชุมพร 32. หาดทรายรี 33. หาดทุ่งวัวแล่น
สุราษฎร์ฯ 34. เกาะสมุย 35. หมู่เกาะอ่างทอง 36. เกาะพงัน 37. เทศกาลฟูลมูนปาร์ตี้ 38. เกาะเต่า 39. เกาะนางยวน
สงขลา 40.แหลมสมิหลา 41. ทะเลสาบสงขลา 42. เกาะยอ
พัทลุง 43. อุทยานนกน้ำทะเลน้อย
ปัตตานี 44. หาดปานาเระ 45. หาดตะโละกาโปร์
นราธิวาส 46. หาดนราทัศน์
ระนอง 47. อุทยานแห่งชาติแหลมสน
พังงา 48. เกาะยาว 49. ิหมู่เกาะสิมิลัน 50. ิหมู่เกาะสุรินทร์
กระบี่ 51. อ่าวนาง 52. หมู่เกาะพีพี 53. อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา 54. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา
ภูเก็ต 55. หาดราไว 56. แหลมพรหมเทพ 57. หาดในหาน 58. อ่าวป่าตอง 59. หาดในยาง 60.เขารัง
ตรัง 61. เกาะกระดาน 62. เกาะมุกและถ้ำมรกต 63. หาดเจ้าไหม
สตูล 64. เกาะหินงาม 65. ทะเลบัน 66. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา


โดย http://travel.sanook.com/beach/beach_06211.php

อุทยานแห่งชาติ

อุทยานแห่งชาติในประเทศไทย
ลำดับ อุทยานแห่งชาติ จังหวัด ข้อมูล
ภาคเหนือ
1. อุทยานแห่งชาติคลองลาน กำแพงเพชร ข้อมูล
2. อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า กำแพงเพชร ข้อมูล
3. อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ กำแพงเพชร ข้อมูล
4. อุทยานแห่งชาติขุนแจ เชียงราย ข้อมูล
5. อุทยานแห่งชาติดอยหลวง เชียงราย ข้อมูล
6. อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก เชียงราย ข้อมูล
7. อุทยานแห่งชาติขุนขาน เชียงใหม่ ข้อมูล
8. อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก เชียงใหม่ ข้อมูล
9. อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา เชียงใหม่ ข้อมูล
10. อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เชียงใหม่ ข้อมูล
11. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ ข้อมูล
12. อุทยานแห่งชาติผาแดง เชียงใหม่ ข้อมูล
13. อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ เชียงใหม่ ข้อมูล
14. อุทยานแห่งชาติแม่โถ เชียงใหม่ ข้อมูล
15. อุทยานแห่งชาติแม่วาง เชียงใหม่ ข้อมูล
16. อุทยานแห่งชาติศรีลานนา เชียงใหม่ ข้อมูล
17. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เชียงใหม่ ข้อมูล
18. อุทยานแห่งชาติออบขาน เชียงใหม่ ข้อมูล
19. อุทยานแห่งชาติออบหลวง เชียงใหม่ ข้อมูล
20. อุทยานแห่งชาติขุนพะวอ ตาก ข้อมูล
21. อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช ตาก ข้อมูล
22. อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ ตาก ข้อมูล
23. อุทยานแห่งชาติแม่เมย ตาก ข้อมูล
24. อุทยานแห่งชาติลานสาง ตาก ข้อมูล
25. อุทยานแห่งชาติขุนน่าน น่าน ข้อมูล
26. อุทยานแห่งชาติขุนสถาน น่าน ข้อมูล
27. อุทยานแห่งชาติดอยภูคา น่าน ข้อมูล
28. อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน น่าน ข้อมูล
29. อุทยานแห่งชาตินันทบุรี น่าน ข้อมูล
30. อุทยานแห่งชาติแม่จริม น่าน ข้อมูล
31. อุทยานแห่งชาติศรีน่าน น่าน ข้อมูล
32. อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง พะเยา ข้อมูล
33. อุทยานแห่งชาติภูซาง พะเยา ข้อมูล
34. อุทยานแห่งชาติแม่ปืม พะเยา ข้อมูล
35. อุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว พิษณุโลก ข้อมูล
36. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง พิษณุโลก ข้อมูล
37. อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ พิษณุโลก ข้อมูล
38. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า พิษณุโลก ข้อมูล
39. อุทยานแห่งชาติเขาค้อ เพชรบูรณ์ ข้อมูล
40. อุทยานแห่งชาติตาดหมอก เพชรบูรณ์ ข้อมูล
41. อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เพชรบูรณ์ ข้อมูล
42. อุทยานแห่งชาติดอยผากลอง แพร่ ข้อมูล
43. อุทยานแห่งชาติแม่ยม แพร่ ข้อมูล
44. อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย แพร่ ข้อมูล
45. อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ แม่ฮ่องสอน ข้อมูล
46. อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ แม่ฮ่องสอน ข้อมูล
47. อุทยานแห่งชาติแม่เงา แม่ฮ่องสอน ข้อมูล
48. อุทยานแห่งชาติสาละวิน แม่ฮ่องสอน ข้อมูล
49. อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ลำปาง ข้อมูล
50. อุทยานแห่งชาติดอยจง ลำปาง ข้อมูล
51. อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ลำปาง ข้อมูล
52. อุทยานแห่งชาติแม่วะ ลำปาง ข้อมูล
53. อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ลำพูน ข้อมูล
54. อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ลำพูน ข้อมูล
55. อุทยานแห่งชาติรามคำแหง สุโขทัย ข้อมูล
56. อุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย สุโขทัย ข้อมูล
57. อุทยานแห่งชาติคลองตรอน อุตรดิตถ์ ข้อมูล
58. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อุตรดิตถ์ ข้อมูล
59. อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน อุตรดิตถ์ ข้อมูล
ภาคกลาง/ตะวันออก/ตะวันตก
1. อุทยานแห่งชาติเขาแหลม กาญจนบุรี ข้อมูล
2. อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ กาญจนบุรี ข้อมูล
3. อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ กาญจนบุรี ข้อมูล
4. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ กาญจนบุรี ข้อมูล
5. อุทยานแห่งชาติไทรโยค กาญจนบุรี ข้อมูล
6. อุทยานแห่งชาติลำคลองงู กาญจนบุรี ข้อมูล
7. อุทยานแห่งชาติเอราวัณ กาญจนบุรี ข้อมูล
8. อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี ข้อมูล
9. อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น จันทบุรี ข้อมูล
10. อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จันทบุรี ข้อมูล
11. อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว ตราด ข้อมูล
12. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ตราด ข้อมูล
13. อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูล
14. อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูล
15. อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูล
16. อุทยานแห่งชาติหาดวนกร ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูล
17. อุทยานแห่งชาติทับลาน ปราจีนบุรี ข้อมูล
18. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพชรบุรี ข้อมูล
19. อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง ระยอง ข้อมูล
20. อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ระยอง ข้อมูล
21. อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ราชบุรี ข้อมูล
22. อุทยานแห่งชาติปางสีดา สระแก้ว ข้อมูล
23. อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย สระบุรี ข้อมูล
24. อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น สระบุรี ข้อมูล
25. อุทยานแห่งชาติพุเตย สุพรรณบุรี ข้อมูล
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
1. อุทยานแห่งชาติน้ำพอง ขอนแก่น ข้อมูล
2. อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ ขอนแก่น ข้อมูล
3. อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน ขอนแก่น ข้อมูล
4. อุทยานแห่งชาติภูเวียง ขอนแก่น ข้อมูล
5. อุทยานแห่งชาติตาดโตน ชัยภูมิ ข้อมูล
6. อุทยานแห่งชาติไทรทอง ชัยภูมิ ข้อมูล
7. อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ชัยภูมิ ข้อมูล
8. อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ชัยภูมิ ข้อมูล
9. อุทยานแห่งชาติภูลังกา นครพนม ข้อมูล
10. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา ข้อมูล
11. อุทยานแห่งชาติตาพระยา บุรีรัมย์ ข้อมูล
12. อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ มุกดาหาร ข้อมูล
13. อุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว มุกดาหาร ข้อมูล
14. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เลย ข้อมูล
15. อุทยานแห่งชาติภูเรือ เลย ข้อมูล
16. อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย เลย ข้อมูล
17. อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ศรีสะเกษ ข้อมูล
18. อุทยานแห่งชาติภูผายล สกลนคร ข้อมูล
19. อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก สกลนคร ข้อมูล
20. อุทยานแห่งชาติภูพาน สกลนคร ข้อมูล
21. อุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม อุดรธานี ข้อมูล
22. อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อุบลราชธานี ข้อมูล
23. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อุบลราชธานี ข้อมูล
24. อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อุบลราชธานี ข้อมูล
ภาคใต้
1. อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา กระบี่ ข้อมูล
2. อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี กระบี่ ข้อมูล
3. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา กระบี่ ข้อมูล
4. อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กระบี่ ข้อมูล
5. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ชุมพร ข้อมูล
6. อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ตรัง ข้อมูล
7. อุทยานแห่งชาติเขานัน นครศรีธรรมราช ข้อมูล
8. อุทยานแห่งชาติเขาหลวง นครศรีธรรมราช ข้อมูล
9. อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง นครศรีธรรมราช ข้อมูล
10. อุทยานแห่งชาติน้ำตกสี่ขีด นครศรีธรรมราช ข้อมูล
11. อุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ นครศรีธรรมราช ข้อมูล
12. อุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป นราธิวาส ข้อมูล
13. อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี นราธิวาส ข้อมูล
14. อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง นราธิวาส ข้อมูล
15. อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ปัตตานี ข้อมูล
16. อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง พังงา ข้อมูล
17. อุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ พังงา ข้อมูล
18. อุทยานแห่งชาติศรีพังงา พังงา ข้อมูล
19. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระ-เกาะพระทอง พังงา ข้อมูล
20. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน พังงา ข้อมูล
21. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ พังงา ข้อมูล
22. อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา พังงา ข้อมูล
23. อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า พัทลุง ข้อมูล
24. อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ภูเก็ต ข้อมูล
25. อุทยานแห่งชาติบางลาง ยะลา ข้อมูล
26. อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ระนอง ข้อมูล
27. อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี ระนอง ข้อมูล
28. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง ระนอง ข้อมูล
29. อุทยานแห่งชาติแหลมสน ระนอง ข้อมูล
30. อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง สงขลา ข้อมูล
31. อุทยานแห่งชาติสันกาลาคีรี สงขลา ข้อมูล
32. อุทยานแห่งชาติตะรุเตา สตูล ข้อมูล
33. อุทยานแห่งชาติทะเลบัน สตูล ข้อมูล
34. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา สตูล ข้อมูล
35. อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง สุราษฏร์ธานี ข้อมูล
36. อุทยานแห่งชาติเขาสก สุราษฏร์ธานี ข้อมูล
37. อุทยานแห่งชาติคลองพนม สุราษฏร์ธานี ข้อมูล
38. อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น สุราษฏร์ธานี ข้อมูล
39. อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน สุราษฏร์ธานี ข้อมูล
40. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง สุราษฏร์ธานี ข้อมูล


จาก สำนักอุทยานแห่งชาติ อาคารพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา

สมุนไพร

สมุนไพรไทย][1]
คนไทยเราเมื่อสมัยก่อนมีการเรียนรู้การใช้สมุนไพรรักษาโรคต่าง ๆ ในหมู่บ้านกันสืบทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน เพราะในอดีต ประเทศไทยมีป่าไม้อุดมสมบูรณ์มากและและสมุนไพรก็มีมากในอดีต จึงถือว่าเป้นภูมิปัญญาที่บรรพบุรุษสั่งสมเอาไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษาความรู้และนำไปใช้ประโยชน์

กล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้าใช้ทำยาได้ทั้งดิบ และสุก มีประโยชน์มากมายมหาศาล อย่างเช่น กล้วยดิบมีสารฝาดสมาน (Astringent) จึงช่วยในการสมานรักษาอาการท้องเสียที่ไม่รุนแรงได้ เป็นการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันผนังกระเพาะลำไส้ไม่ให้เชื้อโรคและอาหารที่มีรสเผ็ดจัด เช่น พริก เข้าไปทำลายผนังกระเพาะ ลำไส้ โดยกินครั้งละครึ่งผลหรือ 1 ผล อาการท้องเสียจะทุเลาลง และยังช่วยรักษาโรคกระเพาะได้อีกด้วย

กระชาย ตามตำราถือว่ากระชายเป็นยาอายุวัฒนะชั้นหนึ่ง เป็นยาเจริญอาหารและบำรุงธาตุทำให้โลหิตหมุนเวียนดีขึ้น ผิวพรรณผุดผ่อง สดใส ชะลอความแก่ แก้ใจสั่น แก้วิงเวียน แน่นหน้าอก แก้แผลในปาก แก้ฝีอักเสบ แก้กลากเกลื้อน

กระเทียม กระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณ คือ ช่วยลดปริมาณของคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด แก้อาการท้องอืด และแน่นจุกเสียด โดยให้รับประทานกระเทียมดิบๆ ครั้งละประมาณ 5-7 กลีบหลังอาหาร

ขมิ้นชัน ขมิ้นชันนอกจากจะเป็นสมุนไพรที่นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องเทศกันมานานแล้ว ยังมีสรรพคุณเป็นยาได้อีกด้วย เช่น เป็นยาลดกรด แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ขับลม อาหารไม่ย่อย แก้โรคกระเพาะ แก้ปวดท้อง แก้อาการเกร็งกล้ามเนื้อ ทำให้การบีบตัวของลำไส้ลดลง

ขิง ขิงเป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ประโยชน์ของขิงคือช่วยย่อยอาหาร ลดความดัน ช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ลดระดับไขมันคอเลสเตอรอล โดยการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากอาหารในลำไส้ แล้วปล่อยให้ร่างกายกำจัดออกทางอุจจาระ ช่วยลดอาการอยากเสพยาของคนติดยาเสพติดได้ บรรเทาปวด ลดไข้ ลดอาการเวียนศีระษะ

ตำลึง ตำลึงเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางอาหารสูง ตำลึงถือเป็นยาเย็น ใบช่วยขับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้อาการแพ้ อักเสบ แมลงมีพิษกัดต่อย แก้แสบคัน เจ็บตา ตาแดงและตาแฉะ แก้โรคผิวหนัง และลดน้ำตาลในเลือด

ตะไคร้ ตะไคร้เป็นสมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อน เฝื่อน และขมเล็กน้อย นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงในการประกอบอาหารทุกส่วนของตะไคร้ สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคหืด แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ และแก้อหิวาตกโรค

กระดุมทอง เป็นไม้ล้มลุกที่พบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน หรือตามบ้านเรือนที่ปลูกอาศัยอยู่ เป็นพืชที่ขึ้นได้ง่าย ใบจะสากมีสีเขียวเข้ม ดอกเมื่อบานเต็มที่จะมีสีเหลือง ตามแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่ได้ให้การยอมรับต้นกระดุมทองนี้มากนัก แต่ทางแพทย์แผนโบราณและแพทย์แผนจีนนั้น ถือได้ว่าต้นกระดุมทองนี้มีสรรพคุณทางยาที่สามารถช่วยรักษาโรคเบาหวาน โรคหัวใจและความดันได้เป็นอย่างดี

มะระขี้นก มะระขี้นกเป็นสมุนไพรพื้นบ้านของไทยอีกชนิดหนึ่งที่มีรสขม มีสรรพคุณในการรักษาโรคเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด แก้ไข้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ

บัวบก บัวบกเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณหลากหลายทั้งแก้อาการช้ำใน ลดความดันโลหิต[1]

ฟ้าทะลายโจร

เพชรสังฆาต

โหระพา

กะเพรา

สะตอ

เกล็ดปลาหมอ

มะยม

ไพล


โดยhttp://www.samunpri.com www.thaiherbbiz.com สมุนไพรไทย

วันสำคัญของไทย

วันสำคัญของไทย ประวัติวันสำคัญ ประจำปี ของประเทศไทย

วันสำคัญ เดือนมกราคม
วันที่ 1 มกราคม : วันขึ้นปีใหม่
วันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม : วันเด็กแห่งชาติ
วันที่ 13 มกราคม : วันการบินแห่งชาติ
วันที่ 14 มกราคม : วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ
วันที่ 16 มกราคม : วันครู
วันที่ 17 มกราคม : วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
วันที่ 17 มกราคม : วันโคนมแห่งชาติ
วันที่ 25 มกราคม : วันกองทัพไทย

วันสำคัญ เดือนกุมภาพันธ์
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ : วันนักประดิษฐ์
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ : วันทหารผ่านศึก
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ : วันอาสารักษาดินแดน
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ : วันศิลปินแห่งชาติ
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ : วันวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติ
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ : วันสหกรณ์แห่งชาติ
ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 : วันมาฆบูชา

วันสำคัญ เดือนมีนาคม
วันที่ 5 มีนาคม : วันนักข่าว/วันสื่อสารมวลชนแห่งชาติ
วันที่ 8 มีนาคม : วันสตรีสากล
วันที่ 13 มีนาคม : วันช้างไทย
วันที่ 20 มีนาคม : วันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ
วันที่ 22 มีนาคม : วันน้ำของโลก
วันที่ 27 มีนาคม : วันกองทัพอากาศ

วันสำคัญ เดือนเมษายน
วันที่ 1 เมษายน : วันออมสิน
วันที่ 1 เมษายน : วันข้าราชการพลเรือน
วันที่ 2 เมษายน : วันอนุรักษ์มรดกไทย
วันที่ 6 เมษายน : วันจักรี
วันที่ 13 14 15 เมษายน : วันสงกรานต์
วันที่ 13 เมษายน : วันผู้สูงอายุ
วันที่ 13 เมษายน : วันประมงแห่งชาติ
วันที่ 14 เมษายน : วันครอบครัว
วันที่ 22 เมษายน : วันคุ้มครองโลก
วันที่ 24 เมษายน : วันเทศบาล

วันสำคัญ เดือนพฤษภาคม
วันที่ 1 พฤษภาคม : วันแรงงานแห่งชาติ/วันกรรมกรสากล
วันที่ 5 พฤษภาคม : วันฉัตรมงคล
ข้างขึ้น เดือน 6 : วันพืชมงคล
ขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 : วันวิสาขบูชา
ขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 : วันต้นไม้แห่งชาติ
วันที่ 31 พฤษภาคม : วันงดสูบบุหรี่โลก

วันสำคัญ เดือนมิถุนายน
วันที่ 5 มิถุนายน : วันสิ่งแวดล้อมโลก
วันที่ 9 มิถุนายน : วันอานันทมหิดล
วันที่ 24 มิถุนายน : วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง
วันที่ 26 มิถุนายน : วันสุนทรภู่
วันที่ 26 มิถุนายน : วันต่อต้านยาเสพติด

วันสำคัญ เดือนกรกฎาคม
วันที่ 1 กรกฎาคม : วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ
ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 : วันอาสาฬหบูชา
แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึง ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 : วันเข้าพรรษา
วันที่ 29 กรกฎาคม : วันภาษาไทยแห่งชาติ

วันสำคัญ เดือนสิงหาคม
วันที่ 4 สิงหาคม : วันสื่อสารแห่งชาติ
วันที่ 7 สิงหาคม : วันรพี
วันที่ 12 สิงหาคม : วันแม่แห่งชาติ
วันที่ 12 สิงหาคม : วันฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
วันที่ 18 สิงหาคม : วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

วันสำคัญ เดือนกันยายน
วันที่ 1 กันยายน : วันสืบ นาคะเสถียร
วันที่ 6 กันยายน : วันทรงดนตรี
วันที่ 15 กันยายน : วันศิลป์ พีระศรี
วันที่ 16 กันยายน : วันโอโซนโลก
วันที่ 20 กันยายน : วันเยาวชนแห่งชาติ
วันที่ 20 กันยายน : วันอนุรักษ์รักษาคูคลองแห่งชาติ
วันที่ 24 กันยายน : วันมหิดล

วันสำคัญ เดือนตุลาคม
แรม 15 ค่ำ เดือน 10 : วันสารทไทย
ขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 : วันออกพรรษา
วันที่ 13 ตุลาคม : วันตำรวจ
วันที่ 14 ตุลาคม : วันประชาธิปไตย
วันที่ 19 ตุลาคม : วันเทคโนโลยีของไทย
วันที่ 21 ตุลาคม : วันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ
วันที่ 21 ตุลาคม : วันพยาบาลแห่งชาติ
วันที่ 21 ตุลาคม : วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ
วันที่ 21 ตุลาคม : วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ
วันที่ 23 ตุลาคม : วันปิยะมหาราช
วันที่ 24 ตุลาคม : วันสหประชาชาติ
วันที่ 31 ตุลาคม : วันออมแห่งชาติ
วันที่ 31 ตุลาคม : วันฮาโลวีน/Halloween

วันสำคัญ เดือนพฤศจิกายน
ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 : วันลอยกระทง
เสาร์สัปดาห์ที่ 2 เดือนพฤศจิกายน : วันคนพิการ
14 พฤศจิกายน : วันบิดาแห่งฝนหลวง
20 พฤศจิกายน : วันกองทัพเรือ
25 พฤษจิกายน : วันวชิราวุธ - วันประถมศึกษา
27 พฤศจิกายน : วันสาธารณสุขแห่งชาติ

วันสำคัญ เดือนธันวาคม
1 ธันวาคม : วันต้านเอดส์โลก วันเอดส์โลก
4 ธันวาคม : วันสิ่งแวดล้อมไทย
5 ธันวาคม : วันพ่อแห่งชาติ
5 ธันวาคม : วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
10 ธันวาคม : วันรัฐธรรมนูญ
16 ธันวาคม : วันกีฬาแห่งชาติ
25 ธันวาคม : วันคริสต์มาส (Merry Christmas)
26 ธันวาคม : วันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ
28 ธันวาคม : วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช


จากhttp://www.tlcthai.com/webboard/view_topic.php?table_id=1&cate_id=109&post_id=33706

ประวัติศาสตร์ไทย

ประวัติศาสตร์ไทย เริ่มขึ้นตั้งแต่การอพยพย้ายเข้ามาของกลุ่มคนพูดภาษาไท-ลาวจากถิ่นบรรพบุรุษ[ต้องการอ้างอิง] ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีนเดิม[ต้องการอ้างอิง] เข้ามายังดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ราวคริสต์ศตวรรษที่ 10 อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยมีประวัติศาสตร์อันยาวนานอยู่ก่อนแล้ว โดยมีมนุษย์เข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่ยุคหินเก่าเป็นต้นมา คือ ราว 10,000 ปีที่แล้ว แต่สำหรับรัฐของคนไทยแล้ว ตามตำนานโยนกได้บันทึกว่า การก่อตั้งอาณาจักรของคนไทยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 1400[1]

การล่มสลายของจักรวรรดิขะแมร์ เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 13 ทำให้เกิดอาณาจักรสุโขทัย ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 1781 อาณาจักรสุโขทัยขยายดินแดนออกไปอย่างกว้างขวางในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช แต่เสถียรภาพของอาณาจักรได้อ่อนแอลงภายหลังการสวรรคตของพระองค์[2]

พระเจ้าอู่ทองทรงก่อตั้งอาณาจักรอยุธยาในปี พ.ศ. 1893 การเข้าแทรกแซงสุโขทัยอย่างต่อเนื่องทำให้อาณาจักรสุโขทัยตกเป็นประเทศราชของอาณาจักรอยุธยาในที่สุด สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงปฏิรูปการปกครองโดยการรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง การยึดครองมะละกาของโปรตุเกสในปี พ.ศ. 2054 ทำให้อยุธยาเริ่มการติดต่อกับชาติตะวันตก อย่างไรก็ตาม ราวกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 เมื่อราชวงศ์ตองอูของพม่าเริ่มมีอำนาจมากขึ้น การสงครามอันยาวนานนับตั้งแต่ พ.ศ. 2091 ส่งผลให้อยุธยาตกเป็นประเทศราชของอาณาจักรตองอูในที่สุด ก่อนที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจะทรงประกาศอิสรภาพในอีก 15 ปีต่อมา

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอยุธยารุ่งเรืองขึ้นอย่างมากในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อย่างไรก็ตาม ความสงสัยในตัวของคอนสแตนติน ฟอลคอน ทำให้ถูกสังหารโดยพระเพทราชา อาณาจักรอยุธยาเริ่มเสื่อมอำนาจลงราวพุทธศตวรรษที่ 24 การทำสงครามกับพม่าหลังจากนั้นส่งผลทำให้อยุธยาถูกปล้นสะดมและเผาทำลาย เมื่อปี พ.ศ. 2310 ในที่สุด พระยาตากได้รวบรวมไพร่พลกอบกู้เอกราช และย้ายราชธานีมาอยู่ที่กรุงธนบุรี ต่อมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325

การลงนามในสนธิสัญญาเบาว์ริง ทำให้ชาติตะวันตกหลายชาติเข้ามาทำสนธิสัญญาอันไม่เป็นธรรมอีกหลายฉบับ ต่อมา แม้จะมีการเสียดินแดนหลายครั้งให้แก่ฝรั่งเศสและอังกฤษ แต่อาณาจักรสยามก็ไม่ตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก กุศโลบายของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำให้ไทยเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยอยู่ฝ่ายเดียวกับฝ่ายพันธมิตร ทำให้สยามได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ อันนำมาซึ่งการแก้ไขสนธิสัญญาอันไม่เป็นธรรมทั้งหลาย

วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองมาเป็นประชาธิปไตย ทำให้คณะราษฎรเข้ามามีบทบาทในทางการเมือง ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศไทยได้ลงนามเป็นพันธมิตรทางทหารกับญี่ปุ่น ในช่วงสงครามเย็น ประเทศไทยได้ดำเนินนโยบายเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา โดยมีนโยบายต่อต้านการขยายตัวของคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค

หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ประเทศไทยยังถือได้ว่าอยู่ในระบอบเผด็จการในทางปฏิบัติอยู่หลายทศวรรษ ประเทศไทยประสบกับความไร้เสถียรภาพทางการเมือง และได้มีการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลทหารผ่านการก่อรัฐประหารหลายสิบครั้ง อย่างไรก็ดี หลังจากนั้นได้มีเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยครั้งสำคัญในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ประชาธิปไตยในประเทศเริ่มมีความมั่นคงยิ่งขึ้น ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังเกิดวิกฤตการณ์การเมือง ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. 2548

โดย วัลลภา รุ่งศิริแสงรัตน์. (2545). บรรพบุรุษไทย: สมัยก่อนสุโขทัยและสมัยสุโขทัย. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประโยชน์ของดอกไม้

ประโยชน์ของดอกไม้
ประโยชน์ของดอกไม้เนี่ย มีเยอะมากเลยนะคะ เเต่ที่สรุปมาให้ได้อ่านกันมีประมาณ11ข้อค่ะ
ดอกไม้นอกจะเป็นพืชที่สวยงามเเละส่งกลิ่นหอมเเล้ว ยังเป็นพืชที่มีประโยชน์มากทีเดียว ประโยชน์ของดอกไม้มีดังนี้

1.ช่วยเติมสีสันให้เเก่โลก ทำให้โลกสวยงาม

2.ดอกไม้บางชนิดนำมาเป็นอาหารได้เช่นดอกขจร ดอกเเค ดอกโสน เป็นต้น

3.นำมาประดับตกเเต่งบ้านได้

4.เป็นตัวกลางในการสือความหมายต่างๆเช่นบอกรัก เป็นกำลังใจ หวังดี เป็นต้น

5.ใช้ในพิธีต่างๆเช่น วันเเม่ วันพ่อ เป็นต้น

6.ใช้เพาะปลูกเพื่อค้าขายเป็นอาชีพได้

7.ส่งกลิ่นหอมเป็นผลดีต่อสุขภาพ

8. เป็นยารักษาโรคได้เช่นดอกกระดังงาไทย ดอกพิกุล ดอกมะลิ ดอกชุมเห็นเทศ ดอกขี้เหล็ก ดอกกระทือ ดอกยี่เข่ง ดอกผักปลัง ดอกบานเย็น ดอกสะเดา ดอกคำแสด ดอกปีป ดอกจำปี ดอกทองกวาว ดอกกุหลาบมอญ ดอกพะยอม ดอกกุ่ม ดอกมะรุม ดอกทับทิมเป็นต้น

9.เป็นอาหารของสัตว์ได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในป่า

10.ทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างได้เช่น ดอกไม้อบเเห้ง พวงมาลัย น้ำหอม สีผสมอาหาร เป็นต้น

11.ช่วยเพิ่มออกซิเจนในอากาศให้มากขึ้น

จาก
http://calamind.exteen.com/20090830/entry-1

ดอกมะลิ

ดอกมะลิ ดอกไม้ วันแม่
วันแม่ ใน สมัยก่อนนั้นไม่มีการกำหนดวันแม่ให้แน่ชัดเนื่องจากเกิดเหตุการณ์หลายอย่าง การจัดวันแม่ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2486 ณ สวนอัมพร แต่เนื่องจากช่วงนั้น เป็นช่วงสงครามโลก ปีต่อมาจึงงด หลายฝ่ายพยายามรื้อฟื้นวันแม่ขึ้นมา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และได้วันที่เป็นที่รับรองของรัฐบาล คือวันที่ 15 เมษายน เริ่มขึ้นในปี 2493 จัดในวันนี้ไปอีกหลายปีแต่ต้องหยุดชะงักลง เพราะกระทรวงวัฒนธรรมโดนยุบ ต่อมาได้กำหนดจัดวันแม่วันที่ 4 ตุลาคม เริ่มในปี 2515 แต่จัดได้เพียงปีเดียวก็เลิกไป จนกระทั่งในปี 2519 คณะกรรมการอำนวยการ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์เห็นว่าควรกำหนดวันแม่ให้แน่นอนเสียที จึงได้กำหนดวันแม่ใหม่โดยให้ถือว่าวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ และ กำหนดให้ดอกมะลิเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ตั้งแต่นั้นมา

เหตุผลที่ให้ดอกมะลิ เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ ก็เนื่องจาก ดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ ส่งกลิ่นหอมไปไกลและหอมได้นาน อีกทั้งยังออกดอกได้ตลอดทั้งปี เปรียบได้กับ ความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูกไม่มีวันเสื่อมคลาย…
ขอบคุณ www.google.co.th